

Oligio vs HIFU เทียบให้ชัด หมัดต่อหมัด! เลือกอะไรดี?
คำถามยอดฮิตติดลมบนสำหรับคนที่อยาก ยกกระชับ ใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ก็คือระหว่าง Oligio กับ HIFU สองเทคโนโลยีตัวท็อปนี้ เราควรจะเลือกทำอะไรดี? ทั้งสองเครื่องต่างก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง แต่ก็มีจุดเด่นและหลักการทำงานที่แตกต่างกัน วันนี้ The Glam Clinic จะมาเทียบให้เห็นกันชัดๆ แบบหมัดต่อหมัด เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่ “ใช่” และเหมาะกับปัญหาผิวของคุณมากที่สุดค่ะ

ทำความรู้จัก #ทีมOligio: พลังงาน RF เพื่อผิวแน่น & สลายไขมัน
- หลักการทำงาน: Oligio ใช้พลังงานคลื่นวิทยุขั้วเดียว (Monopolar RF) ส่งความร้อนเป็นก้อนใหญ่ๆ ลงไปที่ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ลองนึกภาพเหมือนเราวางแผ่นความร้อนอุ่นๆ ลงบนผิว ความร้อนจะกระจายตัวเป็นวงกว้าง
- โดดเด่นเรื่องอะไร?:
สลายไขมัน: เหมาะมากสำหรับคนที่มีแก้มเยอะ มีเหนียง หรือไขมันสะสมที่กรอบหน้า
กระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นกลาง: ทำให้ผิวโดยรวมดูแน่นฟูขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น
ความสบาย: ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่นๆ สบายผิว และใช้เวลาทำไม่นาน
ทำความรู้จัก #ทีมHIFU: พลังงาน Ultrasound เพื่อการยกแบบตรงจุด
หลักการทำงาน: HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) อย่างเครื่อง Ultraformer จะใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ยิงเป็นจุดเล็กๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงลงไปใต้ผิว ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
โดดเด่นเรื่องอะไร?:
การยก (Lifting): เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย แก้มตก กรอบหน้าไม่คมชัด
ยกถึงโครงสร้าง: การยิงถึงชั้น SMAS เปรียบเสมือนการเข้าไปเย็บโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผิวแบบเราควรเลือกอะไรดี?
เลือก Oligio: ถ้าคุณมีไขมันที่แก้มหรือเหนียงเยอะ ต้องการให้หน้าดูเรียวเล็กลง พร้อมกับผิวที่แน่นขึ้น
เลือก HIFU: ถ้าคุณไขมันไม่เยอะ แต่มีปัญหาแก้มห้อย ผิวหย่อนคล้อยตามวัย ต้องการยกกระชับให้ใบหน้ากลับมาได้รูป
สูตรผิวปังที่สุด: สำหรับบางเคสที่ต้องการผลลัพธ์แบบสมบูรณ์แบบที่สุด คุณหมออาจแนะนำให้ทำทั้งสองอย่างร่วมกัน เพื่อจัดการปัญหาทั้งชั้นไขมันและชั้นโครงสร้างผิวไปพร้อมกันค่ะ
ทางที่ดีที่สุดคือการเข้ามาให้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ The Glam Clinic ประเมินสภาพผิว เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะสมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณโดยเฉพาะนะคะ